top of page

NO.1 HIPHOP MAGAZINE ONLINE IN THAILAND

10 ประเด็นร้อนจากการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ Kanye West


ออกมาเคลียร์แบบหมดเปลือก เทหมดใจสำหรับแร็พเปอร์-โปรดิวเซอร์อัจฉริยะอย่าง Kanye West ที่ตกเป็นเป้าโจมตีทางการเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยล่าสุดเจ้าตัวเดินทางไปให้สัมภาษณ์กับพิธีกรฮิพฮอพชื่อดังอย่าง Charlamagne Tha God ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ Kanye จะได้พูดในมุมของตัวเองผ่านสื่ออย่างจริงจัง หลังจากเพิ่งกลับมาใช้โซเชียลมีเดียจนทำให้เขานั้นโดนโจมตีอย่างหนักเมื่อเดือนที่แล้ว และนี่คือ 10 ประเด็นที่เราได้ทราบเกี่ยวกับตัวเขา

1.สุขภาพจิตเสียเมื่อปี 2016

Kanye West ได้พูดถึงการกลับมามีชีวิตที่สงบสุขและสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าเดิมหลังจากที่ต้องประสบปัญหาทางสุขภาพจิตอย่างหนักเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา โดย Kanye ได้เผยว่า "ความกลัว, ความเครียด, การถูกควบคุม, การถูกบังคับเหมือนกับเป็นหมากในเกมหมากรุกตัวหนึ่ง สิ่งรุมเร้าเหล่านั้นมันมีเหตุผลในตัวของมันและผมก็ไม่อยากจะใส่ใจอะไรนัก, มันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการแข่งขัน และด้วยอายุที่มากขึ้น ยิ่งทำให้ผมรู้สึกต้องแข่งขันกับหลายๆสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน"

โดย Kanye ได้เผยต่อว่าเขานั้นต้องเผชิญกับความเครียดอย่างหนักหลังจากที่บรรดาสื่อวิทยุทั้งหลายรวมหัวกันแบนเขา เพราะประเด็นเกี่ยวกับ Taylor Swift ในงาน VMA Awards ปี 2009 ในขณะที่ศิลปินอย่าง Dj Khaled และ Drake กลับมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เขาโดนแบน รวมไปถึงการที่ Kim Kardashian โดนปล้นที่ Paris แต่กลับไม่มีใครพยายามช่วยเหลือเขาแม้กระทั่งสื่อวิทยุ ทำให้เขารู้สึกหมดหวังสุดๆ

2.โดนโจมตีเกินกว่าเหตุ

Kanye เล่าถึงความผิดพลาดของเขาในงาน New York Fashion Week ในปี 2016 ซึ่งเขานั้นไปถึงงานสาย 45 นาที จนเป็นเหตุให้ผู้คนในสังคมแฟชั่นโจมตีเขาอย่างหนักและไม่ให้โอกาสเขาได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเลย โดยเขาเปรียบเทียบตัวเองกับ LeBron James เมื่อตอนย้ายจาก คาวาเลียส์ ไป ไมอามี่ ฮีต โดยขณะนั้นผู้คนต้องการที่จะเห็นเขาพลาดล้มลงและพร้อมจะเหยียบย่ำเขาตลอดเวลา

3.ประเด็นร้อนกับ Jay-Z

Kanye เผยถึงตอนทัวร์กับ Jay-Z ว่าเขานั้นได้รับเงิน 20 ล้านเหรียญฯเป็นค่าตอบแทนแต่ Jay-Z ไปพูดออกสื่อว่าเขาให้เงินกับ Kanye เป็นค่าจ้างสำหรับอัลบั้ม 4:44 และทำเหมือนว่าเขานั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของ Roc Nation และนั่นเริ่มเป็นจุดแตกหักเพราะมันทำให้ Kanye รู้สึกว่าเขาเป็นหนี้มากกว่าที่จะได้รับส่วนแบ่งที่เขาสมควรได้ และยังได้พูดถึงคอนเซปต์ทางการเงินของ Jay-Z ที่เป็นต้นเรื่องของปัญหาทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างเริ่มกลับมาเข้าที่แล้ว และแม้เขาจะไม่ได้เจอกัน แต่ทั้งคู่ก็ส่งเมสเสจหากันอยู่เรื่อยๆโดยไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอีกต่อไป ซึ่งสรุปได้ว่า Kanye เองต้องการแรงบันดาลใจจาก Jay มากกว่าการถูกควบคุมนั่นเอง

4.ประเด็นการเหยียดเชื้อชาติไม่ได้อยู่ในหัวของ Kanye

Kanye เปิดประเด็นเกี่ยวกับการสนับสนุนปธน. Donald Trump ที่มีนโยบายเหยียดเชื้อชาติเป็นหลัก ทำให้เขาถูกตั้งคำถามโดยเพื่อนๆและคนรอบตัวที่เขาไว้ใจ และเขาต้องคอยตอบคำถามเหล่านี้ทั้งๆที่เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย ซึ่ง Kanye ตอบได้อย่างน่าสนใจว่า "การสนับสนุน Donald Trump มันไม่เกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติหรืออะไรทำนองนั้น, ถ้าเกิดมันมีการเหยียดกันจริงๆ ป่านนี้ผมคงไม่ได้อยู่ในอเมริกา"

5.Kanye รู้สึกว่าอดีต ปธน. Barack Obama หักหลังเขา

จากการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองมาสนับสนุน Democrat นั้นมีที่มาจากการที่เขารู้สึกว่าอดีต ปธน. Barack Obama นั้นได้ทำการหักหลังเขาอย่างโจ่งแจ้งทั้งๆที่ Obama นั้นเคยแสดงออกว่า Kanye West คือศิลปินที่เขาชื่นชอบที่สุดแต่กลับทำให้เขารู้สึกผิดหวังจากการที่ไม่ยอมออกมาสนับสนุนในเรื่องใดๆเลย แถมยังไม่เคยเชิญเขาไปที่ทำเนียบขาวในขณะที่ Kendrick Lamar และ Jay-Z กลับถูกเชิญไปแทน

แม้กระทั่งการเล่นคอนเสิร์ตระดมทุนในช่วง Mid-Term ให้กับ Obama ในซานฟรานซิสโก ซึ่ง Kanye ได้เข้าร่วมด้วย แต่พอถึงครา Kanye ขึ้นเพอร์ฟอร์ม Obama ได้ออกไปจากงานทันที และยังด่าเขาผ่านสื่อว่าเป็น "ไองั่ง" อีกต่างหาก

6.Kanye คิดว่าหมอพยายามที่จะฆ่าเขา

Kanye West เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาและไม่เขินอายว่าเขาเกือบที่จะเป็นบ้าไปจริงๆหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยเขาได้เผยว่าตนเองนั้นรู้สึกดีมากๆที่ได้ไปยังอีกซีกโลกหนึ่งและได้กลับมา โดยตอนที่เขานั้นเข้ารับการรักษาเขาบอกกับเพื่อนๆและครอบครัวว่าอยากให้ทุกคนอยู่ใกล้ๆเขาไว้ แต่การที่หมอทำการพาเขาขึ้นลิฟต์แยกตัวเขาออกมาจากเพื่อนๆทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะถูกพาไปฆ่า และนี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขากลัวที่สุดในชีวิต

7.การสนับสนุน ปธน. Donald Trump

Ye เผยว่าการที่เขาเลือกสนับสนุนปธน. Trump นั้นไม่ได้มีเหตุอะไรมากกว่าการที่ Donald Trump ได้พิสูจน์ว่าเขาสามารถทำเรื่องเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้และนั่นเป็นแรงบันดาลใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก แถมยังระบุอีกว่าเขาไม่ใช่คนประเภทที่ชอบอยู่ในคอมฟอร์ทโซน, ไม่ใช่นักคิดหัวโบราณ และเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาต้องหัดคิดนอกกรอบเสียบ้าง

8.ตั้งเป้าให้ Yeezy เป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายอันดับ 1

Kanye ตั้งเป้าว่าหลังจากนี้อีก 10 ปี Yeezy จะเป็นแบรนด์ชั้นนำและพยายามผลักดันให้เป็นในแบรนด์เครื่องแต่งกายที่ดีที่สุดในโลกที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ

9.การโจมตี Taylor Swift เมื่อปี 2009 ไม่ใช่เพื่อแค่ Beyonce

Kanye เผยว่าการที่เขาทำเช่นนั้นกับ Taylor Swift เมื่อปี 2009 ไม่ใช่เพื่อแค่ Beyonce เท่านั้น แต่เขาทำเพื่อทุกคนที่สมควรจะได้รับรางวัลอันทรงเกียรติแต่กลับถูกกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นมาทำลายความเชื่อ ทำลายเกียรติของศิลปินที่สมควรจะได้รับในสิ่งที่พวกเขาพยายามมาตลอดชีวิต

10.เผยถึงการแยกทางกับอดีตผู้จัดการ

Ye ยังได้พูดถึงการแยกทางกับ Izzy Zivkovic และมาใช้บริการทางด้านพาร์ทเนอร์เก่าแก่อย่าง Scooter Braun ผู้ซึ่งดูแลผลประโยชน์ให้กับสตาร์ดังอย่าง Justin Bieber และ Ariana Grande ซึ่ง Kanye เผยว่าที่เขาชอบ Scooter Braun ก็เพราะว่า Scooter Braun นั้นฉลาดรอบด้านและรู้จักวิธีการทำงานและสื่อสารอย่างเป็นมิตรกับคนผิวสี เพราะว่าถึงแม้ Scooter Braun จะเป็นชาวยิวแต่เขานั้นนั้นถูกเลี้ยงมาโดยครอบครัวคนผิวสีนั่นเอง

ชมคลิปสัมภาษณ์

Comments


โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
โพสต์ยอดนิยม
โพสต์ล่าสุด
Archive
No tags yet.
bottom of page