top of page

NO.1 HIPHOP MAGAZINE ONLINE IN THAILAND

ไข 5 ประเด็นเหตุใดอัลบั้ม Damn ของ Kendrick Lamar ถึงได้รางวัลพูลิตเซอร์


เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับ Kendrick Lamar และแฟนๆ ที่ล่าสุดทางด้านคณะกรรมการรางวัลพูลิตเซอร์หรือรางวัลเพื่อคนผลิตสื่อหนังสือพิมพ์, นิตยสาร, วารสารออนไลน์, วรรณคดี และเพลง ออกมาประกาศให้อัลบั้ม Damn ของยอดแร็พเปอร์จากคอมพ์ตันได้รับรางวัลดังกล่าวเมื่อวานนี้ (17 เม.ย.)

จากการประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมด้วยยอดสัปดาห์แรกกว่า 6 แสนแผ่นของอัลบั้ม Damn ซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 4 ส่งผลให้ Kendrick Lamar คว้ารางวัลมาครองเป็นว่าเล่นทั้ง Grammy Awards ครั้งที่ 60 สาขาอัลบั้มแร็พยอดเยี่ยม, ได้รางวัลดับเบิล แพลทตินัมจาก RIAA อีกทั้งยังกลายเป็นอัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปี 2017 ของ Billboard อีกด้วย โดยถ้าหากใครยังไม่เคยฟังหมดทั้งอัลบั้ม ลองมาอ่านบทวิเคราะห์ว่า ทำไม? อัลบั้ม Damn ถึงได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในย่อหน้าถัดไปกันเลย

1.สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวอเมริกัน-แอฟริกัน

Kendrick Lamar นั้นค่อนข้างพรีเซ็นต์วิถีชีวิตของคนอเมริกันได้อย่างแข็งแรงและมีบริบท ยกตัวอย่างเช่นเพลง DNA นั้นเป็นเพลงที่พูดถึงความภาคภูมิใจในชาติกำเนิดและวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่บนการตั้งคำถาม มากกว่าการด่าทอที่เคยได้ยินจากเพลงฮิพฮอพทั่วไป

2.แฝงวิธีคิดด้วยการตั้งคำถามบนหลักไบเบิ้ล

เป็นที่ทราบกันดีว่าชาว อเมริกัน-แอฟริกัน นั้นมีวิถีชีวิตโดยยึดถือหลักศาสนาคริสต์เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและอัลบั้ม Damn นั้นก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีทั้งในเพลง YAH ที่ย่อจาก Yahweh ชื่อเรียกของพระเจ้า โดยเพลงนี้ K.Dot ได้เล่าถึงความรู้สึกของเขาหลังจากโด่งดังเป็นพลุแตก เลยต้องพูดกับพระเจ้าเสมือนเป็นการเตือนตัวเองเป็นนัยๆว่าไม่ให้หลงไหลไปกับสิ่งล่อใจต่างๆ เช่นเดียวกับเพลง PRIDE ที่พูดถึงความหลงระเริงจากความสำเร็จที่เขาต้องพยายามกักเอาไว้ข้างใน โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก 1 ในบาป 7 ประการตามพระคัมภีร์ไบเบิ้ล

3.เปรียบเสมือนงานวรรณกรรมชิ้นเยี่ยม

อัลบั้ม Damn ได้รับการยอมรับในทุกมิติทั้งพาร์ทดนตรีที่ครบเครื่อง การเล่าเรื่องที่ครบครัน แต่ที่เด่นไปกว่านั้นคือวิธีการเขียนของ Kendrick นั้นนอกจากจะเป็นตัวแทนความคิดของคนหมู่มากแล้วยังเป็นการตั้งคำถามเชิงวิพากย์ถึงการดำรงชีวิต การปฏิบัติตนต่อคนรอบข้าง, ความเป็นมนุษย์ผ่านภาษาอังกฤษได้อย่างมีศาสตร์และศิลป์ โดยมีการพูดกันว่าภาษาที่ Kendrick ใช้นั้นยากพอๆกับความรู้ของปรมาจารย์ด้านภาษาเลยทีเดียว

4.มีอิทธิพลต่อเยาวชนและโลกยุคใหม่

นอกจากความยอดเยี่ยมของเพลงแล้ว Kendrick Lamar ถือเป็นยอดศิลปินคนหนึ่งของยุคที่มีทั้งความฉลาด มนุษย์สัมพันธ์ที่เป็นเลิศ ต่างกับศิลปินทั่วๆไปที่พยายามจะพูดเริื่องของตัวเอง แต่ K.Dot ได้ก้าวข้ามผ่านปัญหาภายนอกเสียหมดสิ้น เหมือนกับเป็นการบอกคนทั้งโลกว่าปัญหาหรือศัตรูที่ร้ายที่สุดของเราคือตัวเราเอง ซึ่งเป็นเหมือนไกด์ในการใช้ชีวิตชั้นดีให้กับคนยุคใหม่ที่ต่างโดนรุมด้วยสิ่งเร้านับไม่ถ้วน ดังที่ K.Dot ยกตัวอย่างไว้ในเพลง FEAR และ LUST นั่นเอง

5.เล่นกับความรู้สึกของคนฟัง

หากใครได้ฟังทั้งอัลบั้มจะพบว่า K.Dot นั้นได้ก้าวข้ามความเป็นปุถุชนธรรมดาไปแล้วจากการมองภาพสังคมแบบองค์รวมและการเสียดสีที่มีชั้นเชิง ที่คุณฟังจบแล้วอาจจะยังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกเหน็บเข้าให้แล้วดังในเพลง Humble เป็นต้น ซึ่ง K.Dot นั้นใช้วิธีการเขียนแบบตั้งคำถามเหมือนกับล่อให้คุณเข้าไปติดกับดักและปล่อยให้คุณตีความด้วยตัวเอง

Humble

Royalty

DNA

Love

Comments


โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
โพสต์ยอดนิยม
โพสต์ล่าสุด
Archive
No tags yet.
bottom of page