ถอดคำสัมภาษณ์ The Toys 'หน้าด้าน'หรือไม่? ถามใจคุณดู

เป็นประเด็นร้อนแรงอยู่พักใหญ่สำหรับกรณีการ "ก๊อปปี้" เพลงจากต่างประเทศที่เดือดระอุขึ้นอีกครั้งจากฝีมือการรังสรรค์ผลงานของ The Toys หรือ เอม หรือ ธันวา บุญสูงเนิน หลานชายสุดที่รักของคุณเจินเจิน โดยล่าสุดเจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ในงาน Joox Thailand Music Awards ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ด้วยถ้อยสัมภาษณ์ที่ค่อนข้างเย่อหยิ่งและไม่แคร์สื่อ ซึ่งเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่การตอบถามที่ดีให้กับสังคมที่กำลังให้ความสนใจในประเด็นนี้เลยแม้แต่น้อย (ไม่นับรวมประเด็นโง่ๆอย่างการแต่งตัว,ชื่อเล่น และ อายุ)

ในช่วงต้นการให้สัมภาษณ์นั้น The Toy แสดงออกชัดเจนว่าตนเองนั้นเป็นแฟนคลับของ John Mayer และ The 1975 และได้ยอมรับต่อหน้าธารกำนัลอย่างเต็มปากว่า เพลงของตนเองนั้นมีความ "เหมือน" กับ The 1975 "มากๆ" ซึ่งในกรณีนี้ถ้าเป็นการใช้คำว่าคล้ายและใช้วิธีการพูดที่ดูสำนึกมากกว่านี้ ผู้เขียนอาจจะทำใจยอมรับได้อยู่บ้าง

The Toys เผยว่า "ผมเสพย์ดนตรีอเมริกันและอังกฤษอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เราเสพย์อะไรแล้ว เมื่อถึงเวลาเราพูดออกมาสำเนียงเราจะเป็นอย่างนั้น เวลาผมอยู่ภาคเหนือนานๆ สำเนียงผมอาจจะติดได้ ไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไง" อ่านกันให้ดีชัดๆอีกครั้งแล้วมาทำความเข้าใจประโยคนี้พร้อมๆกัน

การใช้คำพูดเชิง Stereotype หรือการเหมารวมของ The Toys ที่ว่า "เป็นไปไม่ได้" "ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร" "ทุกคนต้องเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้" นั้นแสดงออกชัดเจนถึงวิสัยทัศน์การทำเพลงของคนเบื้องบนยาวมาจนถึงตัวศิลปินเองว่า ไม่ได้มีความใส่ใจในประเด็นการก็อปปี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแรกที่วงการเพลงไทยต้องมีกระทู้ยอดฮิตในทำนองนี้ กอปรกับกิริยาท่าทางของทีม Whattheduck ที่ออกมาเหงื่อแตกพลั่ก พูดจาเลิ่กลั่กนั้นยิ่งทำให้การเดินเกมแก้ข่าวของทีมงานดูแย่ลงไปถนัดตา เพราะนอกจากคำสัมภาษณ์จะไม่ช่วยอะไรแล้วยังแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนว่าไม่พร้อมกับการแก้ไขปัญหานี้ทั้งที่ก็ "รู้อยู่แล้ว" ว่าต้องมีประเด็นนี้เกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ถ้าออกมาพูดแบบนี้สู้ไม่พูดเลยจะดีเสียกว่า...

การใช้กฏหมายหรือทฤษฏีการตรวจสอบการก็อปปี้นั้นมีทั้งหมดหลายจุดด้วยกัน ลากยาวไปตั้งแต่จังหวะ, การเรียบเรียง, ทำนอง คำร้อง หรืออาจรวมไปถึง ท่อนบริดจ์ ท่อนเบรกดาวน์ และอื่นๆ ซึ่งหากตกประเด็นไหนที่กล่าวไปเพียง 1 หรือ 2 ข้อ จะทำให้เพลงนั้นหลุดข้อหาการก็อปปี้ทันที เพราะฉะนั้นหากตัดทฤษฏีออกแล้วใช้อารมณ์ความรู้สึกตัดสินแทน เราก็คงจะได้คำตอบที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก

ในฐานะที่ผู้เขียนก็เป็นคนทำเพลงที่พอมีประสบการณ์อยู่บ้าง จึงอยากฝากบอกไปยัง The Toys และค่ายต้นสังกัดว่าการผลิตดนตรีขึ้นมานั้นหากคุณเป็นคนคิดมันขึ้นมานอกเหนือจากทฤษฏีดนตรีที่เรียนรู้กันมาจริง เพลงนั้นๆจะไม่มีวันเหมือนเพลงไหนในโลกเด็ดขาด ย้ำอีกครั้งว่า "ไม่มีทางเหมือนเพลงในในโลก" แน่นอน และถ้าเราตั้งใจลอกหรือนำเทคนิคจากเพลงที่เราชอบมาใช้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้อยู่แก่ใจเช่นกัน

ยิ่งฝีมือการทำเพลง การเล่นกีตาร์ที่เด่นชัดของ The Toys ยิ่งทำให้เราไม่อยากเชื่อว่านี่คือวิสัยทัศน์ของคนที่ถูกยกย่องว่าเป็นคนที่มีฝีมือเก่งกาจ และมันยิ่งตอกย้ำคำพูดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยอดอัจฉริยะของโลกที่กล่าวว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" ให้ลึกเข้าไปอีก ซึ่งนี่อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่นักร้องนักดนตรีสาย "เรียน" สู้การเรียนรู้ตามธรรมชาติของมนุษย์ไม่ได้ก็ได้

ก็ขนาดเจ้าตัวเองและหัวหน้าทีมต้นสังกัดเองยังออกมาให้สัมภาษณ์เชิงแบ่งรับแบ่งสู้ขนาดนี้ ก็คงไม่ต้องสาธยายอะไรกันให้มากความแล้วล่ะว่า ลอกหรือไม่ลอก? หน้าด้านหรือไม่? ก็ลองถามใจคุณดู