'Coke La Rock' ตำนานแร็พเปอร์คนแรกของโลกที่ยังหายใจ

หลายๆคนคงเคยได้อ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติฮิพฮอพกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะครับ? แต่พอได้สนทนากับผู้รู้หลายๆคนกลับพบว่าน้อยคนนักที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าแร็พเปอร์หรือเอ็มซีคนแรกของโลกที่ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการนั้นเป็นใครกันแน่? วันนี้ Therapmag.com จึงขออาสานำทุกท่านไปรู้จักกับตำนานที่ยังมีชีวิตคนนี้กันเลยดีกว่า

Coke La Rock (aka Coco La Rock) เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน 1955 ในนครนิวยอร์ค ผู้ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นแร็พเปอร์คนแรกของโลกอย่างเป็นทางการในประวัติศาสตร์ฮิพฮอพ ซึ่งเขาได้รับการส่งชื่อเข้าหอเกียรติยศสูงสุดด้านวัฒนธรรมในพิธีมอบรางวัลประจำปีของงาน Cannabis Cup ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา

บทนำ Kool Herc and La Rock

La Rock คือหนึ่งในกลุ่มผู้บุกเบิกวงการฮิพฮอพอย่างแท้จริงร่วมกับ DJ Kool Herc ผู้ที่เป็นคนวางรากฐานให้กับวงการฮิพฮอพมาตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1973 ซึ่งตัว La Rock เองนั้นเป็นหนึ่งในทีมเอ็มซีของ Kool Herc ที่ใช้ชื่อว่า Herculoids ในขณะนั้น โดย Larock เองนั้นได้ทำการเปลี่ยน Aka. หลายต่อหลายครั้งโดยปรากฏตัวครั้งแรกในนาม 'A-1 Coke' ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น 'Nasty Coke' และกลายมาเป็น 'Coke La Rock' ในท้ายที่สุด

ในปี 1973 ทางด้าน La Rock นั้นได้ทำการเข้าร่วมปาร์ตี้วันเกิดของ Cindy น้องสาวของ Kool Herc ซึ่งเป็นงานแรกของเขาที่ได้ทำการทดลองในฐานะ MC คนแรกของโลก ซึ่งในขณะนั้นเขายังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการจึงไม่มีใครจำเขาได้ว่าเป็นใครมาจากไหน จนกระทั่งงานปาร์ตี้ ที่ 5 ของเขาจึงใช้ชื่อ Coke La Rock ได้อย่างสมภาคภูมิ โดยเขาเปิดเผยว่าได้ชื่อนี้มาโดยบังเอิญจากในความฝันตอนหลับของเขานั่นเอง

การแร็พแบบดั้งเดิมในสไตล์ของ La Rock นั้นเริ่มจากการที่เขาหยิบจับเอาบุคลิกและบรรยากาศในงานมาล้อเล่นกับเพื่อนๆก่อนที่จะเริ่มใส่ "กลอน" เข้าไป โดยประโยคเด็ดของเขาที่เราได้ยินกันมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือท่อนที่ว่า "You rock and you don't stop" หรือ "Hotel, motel, you don't tell, we won't tell" ที่ปรากฏในซิงเกิลแรกของวงสุดดังอย่าง Sugahill Gang ที่มีชื่อว่า 'Rapper Delight' ซึ่งทาง La Rock เองไม่เคยได้รับเครดิตใดๆทั้งสิ้น

โดยการแร็พของ La Rock นั้นเป็นการอิมโพรไวส์หรือด้นสดล้วนๆ ซึ่งแตกต่างจากวงอื่นๆในปลายยุค 70s อย่าง The Furious Five และ Cold Crush Brothers ที่เน้นการแร็พจดและใส่ความละเอียดละออเข้าไปในเนื้อเพลงมากขึ้น ซึ่ง La Rock เองได้เผยว่า "ผมเริ่มด้วยการแร็พชื่อเพื่อนๆของผมลงไป จากนั้นก็พยายามแร็พจีบสาว, จริงๆแล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะไปแร็พอะไรหรอก ผมคิดว่ามันคือการหาอะไรทำสนุกๆเฉยๆ"

อย่างไรก็ตาม การแร็พของ La Rock นั้นมีการผสมผสานของดนตรีพื้นบ้านของชาวจาไมก้าที่เรียกว่า 'Toasting' ซึ่งได้รับความนิยมใช้กันในปาร์ตี้ของ Kool Herc ในช่วงกลางยุค 70s ซึ่งเป็นโมเดลให้กับชาวฮิพฮอพทุกหมู่เหล่าที่เข้ามามีส่วนร่วมกับวงการในขณะนั้นกว่าทศวรรษ ซึ่ง La Rock เองได้ทำการเปรียบเทียบว่าเขาและ Kool Herc นั้นเป็นผู้บุกเบิกและผลิตฮิพฮอพเหมือนกับที่ Nicky Barnes กับ Frank Lucas สองผู้ค้ายาเสพย์ติดชื่อดังทำกับยาเสพย์ติดของเขาเลยทีเดียว

การปฏิเสธความดังแบบไม่ใยดี

หลังจากที่ Kool Herc ถูกแทงในงานปาร์ตี้งานหนึ่งด้วยฝีมือของ 1 ในทีมผู้จัดงาน ทางด้าน La Rock ได้ทำการออกตัวเพื่อที่จะลงมือฆ่าคนร้ายแทนเพื่อนสนิท, โดยเหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นที่สระว่ายน้ำของหอประชุมแห่งหนึ่งใน Bronx แต่กลุ่มเพื่อนของคนร้ายได้ทำการพาตัวหนีจากเงื้อมมือ La Rock ได้อย่างทันท่วงที, หลังจากนั้น La Rock จึงตัดสินใจหันหลังให้กับวงการฮิพฮอพและผลักดันรุ่นใหม่ๆให้เข้ามามีบทบาทแทน ซึ่งเหตุการนี้เองที่ทำให้ La Rock คิดได้ว่าเขาไม่ต้องการให้การฆ่าฟันเป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้ พร้อมกันกับการที่เขาเพิ่งมีลูกชาย (Dante La Rock) เขาจึงหันหลังให้กับวงการนับแต่นั้นมา

Gary Harris พนักงานคนแรกของค่ายฮิพฮอพค่ายแรกของโลกอย่าง Sugar Hill เผยว่า "ทุกคนให้ความเคารพ Herc กับ Coke อย่างมาก แต่อยู่ดีๆพวกเขาก็หายไปในช่วงปี 80s พวกเขาไม่อยู่ในซีนฮิพฮอพอีกเลยนับจากนั้น" ซึ่งต่างจากฮิพฮอพรุ่นน้องอย่าง Afrika Bambaataa และ Grandmaster Flash ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง (เป็นเพราะว่า Herc และ Coke ไม่เคยมีการบันทึกเสียงลงเป็นเพลงหรือเทปคาสเซ็ทเป็นลายลักษณ์อักษรนั่นเอง)

ในช่วงปี 2008 ทาง La Rock เองได้ทำการบันทึกเสียงครั้งแรกในชีวิตจนได้ ในเพลงที่มีชื่อว่า "Hello – Merry Christmas Baby!" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองการกำเนิดของฮิพฮอพในวันหยุดพิเศษช่วงคริสมาสต์ ที่จัดทำโดย Sedgwick & Cedar

แต่อย่างไรก็ตาม La Rock ถือได้ว่าเป็นบุคลากรสำคัญของวงการในฐานะตำนานและถูกนำชื่อไปแขวนไว้บนหิ้งหลายครั้ง อาทิเช่นในเพลงของ KRS-One ที่มีชื่อว่า "South Bronx" โดยท่อนดังกล่าวมีใจความว่า

Now way back in the days when hip-hop began With Coco La Rock, Kool Herc, and then Bam

ในวันที่ 25 เมษายน นี้ถือเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 63 ของ Coke La Rock และแน่นอนว่าตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่นี้จะถูกจดจำในฐานะแร็พเปอร์คนแรกของโลกไปอีกตราบนานเท่านาน